
เครื่องจักรจากบูมแล็บ
เกราะส่องแวบวับสีทอง
ผลงานจากสมอง
ช่างเทคนิคคิดพลิกแพลง
นางมักสร้างผลงาน
น่ารำคาญมีผมแดง
ไร้ซึ่งประกายแสง
“ไม่พอแน่!” นางโพล่งมา
นางรู้แหล่งเสมอ
แล็บเลเซอร์นางเจรจา
แคงกอร์ไร้ปัญหา
หุ่นทำงานพร้อมเติบโต
คิกคัก นางบอกว่า
“เจ้ายิ่งกว่าแอนนอย-โอ
เจ้ายิ่งใหญ่กว่าโข
จงทักทาย และทักทาย!”
คนอื่นรำคาญหนัก
บอสจึงฟักกลอุบาย
“ท่องโลกสิสหาย”
ด็อกเตอร์บูมจุดชนวน

จรวดจักรกลพุ่ง
ลงท้องทุ่งเมืองใกล้สวน
หุ่นหาเพื่อนร่วมก๊วน
แต่ก็พบแต่โกรธา
เขาหนีไปร้องไห้
น้ำมันไหลในดวงตา
ดีไปทำไมหนา
ถ้าได้มาแต่รำคาญ
เขาร่อนเร่อยู่ไกล
แหวกหมู่ไม้นานแสนนาน
แล้วเสียงสนุกสนาน
ก็ดังลั่นกันไปทั่ว
เขาติดตามแหล่งเสียง
พบแต่เพียงภาพน่ากลัว
ทหารม้าไร้หัว
เป็นภัยชั่วทำลายเมือง
ทหารม้าเล่นกลอน
สร้างความหลอนไม่รู้เรื่อง
อีกฝ่ายพร้อมกดเฟือง
พาลาดินอาวุโส
แอนนอย-โอเข้าใจ
เขาต้องไฟต์ผู้ยโส
เขาตะโกนก้องโห่
“หวัดดี! หวัดดี! หวัดดี!”
เขาสร้างความรำคาญ
เมื่อทหารคล้องวลี
สัมผัสหลุดทันที
เพียง “หวัดดี!” แค่คำเดียว
ไร้หัวเริ่มไขว้เขว
และเริ่มเซเริ่มโกรธเกรี้ยว
คำกลอนแหลกเป็นเสี้ยว
เมื่อแอนนอย-โอใกล้เคียง
“ก็ได้ ข้ายอมไป”
กล่าวทิ้งไว้ด้วยน้ำเสียง
อดทนไม่พอเพียง
“แอนนอย-โอ ข้ายอมแพ้!”
ชายแก่อัศวิน
ลุกขึ้นยินดีโดยแท้
“เจ้าคือเซอร์เป็นแน่
อัศวินคือเจ้าเอง!”

ตอนนี้เขาเปลี่ยนใหม่
นักสู้ไร้ความยำเกรง
เขาลากภัยเก่งๆ
แล้วทักทายว่า:
“...หวัดดี!”